ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าผลสำรวจการจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง และดาวร่วง เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 โดย รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์ฯ ร่วมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เผยผลวิจัยทางธุรกิจเกี่ยวกับแนวโน้ม 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่งในปี 2567 ที่มีคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

♦ (96.1 คะแนน) ธุรกิจ E-Commerce , ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ Youtuber การรีวิวสินค้า และ Influencer ครองแชมป์ธุรกิจดาวรุ่งอันดับ 1 แห่งปี 2567
♦ (95.7 คะแนน) ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม , ธุรกิจโฆษณาและสื่อออนไลน์ ติดดาวรุ่งอันดับ 2
♦ (95.2 คะแนน) ตามด้วย Social Media และ Online Entertainment , ธุรกิจด้าน Fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี , ธุรกิจ Cloud Service และธุรกิจบริการ Cyber Security ติดดาวรุ่งอันดับ 3 

ในส่วนของ 10 อันดับธุรกิจดาวร่วงในปี 2567 ที่มีคะแนนต่ำสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

♦ (7.8 คะแนน) โทรศัพท์พื้นฐาน และ ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ CD-VDO ติดอันดับ 1 ธุรกิจดาวร่วงแห่งปี 2567
♦ (8.6 คะแนน) ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มี Platfrom online , ธุรกิจผลิต CD-DVD ที่จัดเก็บข้อมูลฮาร์ดดิสไดร์ฟ , บริการส่งหนังสือพิมพ์ และ
♦ (9.9 คะแนน) ธุรกิจคนกลาง , ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก จ่อคิวธุรกิจดาวร่วงอันดับ 3 ตามลำดับ

โดยการประเมินนี้ จะคำนึงถึงปัจจัย 5 ด้านคือ ยอดขาย, ต้นทุน, กําไร, ปัจจัยเสี่ยง และ ความต้องการของตลาด

ภาพประกอบ: กันยกร กาญจนวิไล

10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง ปี 2567 มีธุรกิจด้านใดบ้างนะ (ที่มา : IT24hrs)

อันดับ 10) ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง

ธุรกิจยานยนต์แบบใช้นํ้ามันและไฮบริดยังคงมีการเติบโตได้ ถึงแม้ว่าจะมีรถ EV เข้ามา เพราะโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ในตอนนี้ยังเอื้อกับรถนํ้ามันมากกว่า แต่แน่นอนว่าพอรถ EV เข้ามาก็เลยแย่งตลาดในส่วนนี้ไป

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ก็ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการของภาครัฐหรือภาคเอกชน

ธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทดแทน เช่น โซลาร์เซลล์มีการเติบโตมากขึ้น ทั้งบ้านที่สร้างใหม่ บ้านที่สร้างมาแล้วและบ้านมือสองก็เริ่มหันมาติดตั้งโซลาร์เซลล์กันมากขึ้น เนื่องจากค่าไฟที่ปรับราคาสูงขึ้น

อันดับ 9) ธุรกิจอีสปอร์ต เกมส์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ธุรกิจตลาดเพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

ธุรกิจที่เกี่ยวกับอีสปอร์ตเกมส์ยังคงติดโผอยู่จากการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจตลาดเพื่อการท่องเที่ยว ถือเป็นตลาดที่เริ่มมีการเติบโตอย่างมากโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ๆ

ธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ปัจจัยหนึ่งที่ธุรกิจเหล่านี้เติบโตได้ก็เพราะรัฐบาลมีการส่งเสริมการท่องเที่ยว มีนโยบายต่างๆ ที่คอยสนับสนุน เช่น การออกนโยบายฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

อันดับ 8) ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ธุรกิจบันเทิงยามค่ำคืน ผับ บาร์ คาราโอเกะ

หลังจากที่อยู่กับโควิดมายาวนาน พฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงแปลกๆ ในประเทศไทยก็เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง เช่น คลินิก หรืออุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงก็รุ่งเรืองขึ้นตามไปด้วย

ธุรกิจผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือธุรกิจบันเทิงยามคํ่าคืน ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้รุ่งก็เพราะนโยบายของรัฐที่ขยายเวลาให้สามารถเปิดร้านได้ถึงตี 4

อันดับ 7) ธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่โมเดิร์นเทรด ธุรกิจโลจิสติกส์ เดลิเวอรี่และคลังสินค้า ธุรกิจเงินด่วน โรงรับจำนำ

ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ หรือว่า Modern Trade ก็คือบรรดาห้างหรือ Supermarket ขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องนะคะ และในปี 2567 นี้ ถ้าดิจิทัลวอลเล็ทออกมาใช้แล้ว ก็น่าจะมีอานิสงส์ให้ได้เติบโตมากขึ้นได้อีก

ธุรกิจโลจิสติกส์ เดลิเวอรี่ และคลังสินค้า ก็มีการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับในปีที่ผ่านมา เนื่องจากค่าพลังงานที่เพิ่มขึ้น แต่เพราะการซื้อของออนไลน์เป็นที่นิยมมาก ๆ ทำให้ธุรกิจนี้ยังน่าสนใจ

ธุรกิจเงินด่วน โรงรับจํานํา กลับมาติดอันดับอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายแก้หนี้นอกระบบ และภาวะเศรษฐกิจค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นด้วย

อันดับ 6) ธุรกิจอาหารเสริม ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ธุรกิจเกี่ยวกับน้ำตาล

ธุรกิจอาหารเสริม ติดอันดับธุรกิจดาวรุ่งอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตอนนี้ทุกคน ทุกวัย ไม่ว่าจะวัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ ต่างก็หันมาสนใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น

ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สิ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจนี้การขยายตัวนั่นก็คือคือการสั่งซื้อผ่านออนไลน์

ธุรกิจเกี่ยวกับน้ำตาลจะโดดเด่นขึ้นเพราะรัฐบาลส่งเสริมเรื่องเกี่ยวกับอาหารไทย ขนมไทย ตามนโยบายซอฟต์พาวเวอร์

อันดับ 5) ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต ธุรกิจอีวี และธุรกิจเกี่ยวข้อง ธุรกิจซอฟต์พาวเวอร์ เช่น ซีรีส์ ภาพยนตร์

ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตเกาะอันดับ 5-6 มาโดยตลอด เพราะเป็นการป้องกันความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สิน และอีกเหตุผลหนึ่งคือค่ารักษาพยาบาลที่พุ่งสูงขึ้น หลาย ๆ คนเลยหันมาทําประกันกันมากขึ้น และปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจประเภทนี้ก็คือโรคอุบัติใหม่อย่างเช่นโควิด 19

ธุรกิจยานยนต์แบบใช้นํ้ามันอยู่อันดับที่ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง แต่ธุรกิจรถ EV ติดอันดับที่ 5 มาแรงมาก ซึ่งเราก็เห็นกันได้ชัดจากรถ EV ที่เห็นกันตามท้องถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนอกจากเพราะราคารถ EV ที่จับต้องได้แล้ว ยังมีนโยบานส่งเสริมการใช้รถ EV ของรัฐก็เป็นปัจจัยส่วนสนับสนุน รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสําคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมกันด้วย แต่ปัจจัยด้านลบก็มีนะ เช่น จุดชาร์จที่อาจจะยังไม่เพียงพอในตอนนี้ อืมมม หรือนี่อาจจะเป็นธุรกิจที่มาแรงด้วยก็ได้

ธุรกิจที่เกี่ยวกับซีรีส์วาย ซีรีส์ต่าง ๆ ก็เป็นธุรกิจดาวรุ่งอีกเช่นเคย แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงในการจะจับเทรนด์ธุรกิจนี้เหมือนกัน อย่างเช่นการแข่งขันกันที่ค่อนข้างรุนแรง ความนิยมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงต้นทุนการผลิต และความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์

อันดับ 4) งานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจอีเวนท์ ธุรกิจความเชื่อ เช่น สายมู หมอดู ฮวงจุ้ย ธุรกิจอัญมณี เช่น ทอง

ธุรกิจงานคอน มหกรรมแสดงสินค้า อีเวนท์ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักมาจากการสนับสนุนของภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งการแข่งขันที่รุนแรง, ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ, การขาดแคลนบุคลากรที่มีความชํานาญ, บวกกับต้นทุนที่สูงก็อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงในการจะจับธุรกิจด้านนี้

ธุรกิจความเชื่อก็มาแรงมาก เป็นดาวรุ่งมาหลายปีแล้ว เนื่องจากในปัจจุบันคนเราต้องเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ ความไม่มั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน จึงไม่แปลกที่มีคนจำนวนมากที่เชื่อว่า หากบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะช่วยเสริมดวงชะตา ช่วยให้สิ่งที่ทำผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และที่สำคัญก็คือส่งเสริมด้านการเงินด้วยนั่นเอง ทำให้ธุรกิจที่เป็นหนึ่งที่พึ่งทางใจได้รับความนิยมมาก แต่มันก็มีความเสี่ยงของธุรกิจนี้อยู่ นั้นก็คือมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่เยอะ มาพร้อมกับสารพัดกลโกงต่าง ๆ และยังไม่มีกฎหมายที่รองรับอย่างจริงจังอีกด้วย ขณะที่อันดับ 4 ร่วมอย่างธุรกิจอัญมณี เช่น เครื่องทองและเครื่องประดับ ยังรับความนิยมที่สูงง เนื่องจากมีเรื่องของการเก็งกําไรเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่แน่นอนว่าก็ต้องเจอความเสี่ยง อย่างอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน เพราะอาจต้องนําเข้า และช่างฝีมือก็มีน้อยลงเรื่อย ๆ

อันดับ 3) โซเชียลมีเดียและออนไลน์เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ธุรกิจด้านการเงินธนาคาร ฟินเทค และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี ธุรกิจคลาวด์เซอร์วิส และธุรกิจบริการไซเบอร์ ซีเคียวริตี้

ธุรกิจโซเชียลมีเดียและออนไลน์เอ็นเทอร์เทนเมนท์ เพราะปัจจุบันว่างเมื่อไหร่ก็ต้องไถโซเชียล ดูหนังดูซีรีส์ก็ดูทางออนไลน์ ช่องทีวีก็หันมาเปิดในช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ โซเชียลมีเดียและออนไลน์เอ็นเทอร์เทนเมนท์ มาติดอยู่ในอันดับที่ 3 ซึ่งก็มีความเสี่ยงอยู่ นั่นก็คือความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม และมิจฉาชีพที่แฝงตัวอยู่เต็มในโซเชียลมีเดีย รวมถึงข้อจํากัดในการเข้าอินเทอร์เน็ตในหลายพื้นที่ด้วย

ธุรกิจการเงินธนาคาร Fintech และก็การชําระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 ได้ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้เงินสดน้อยลง แต่จ่ายเงินผ่านอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น และไหนจะมีโครงการของรัฐที่ช่วยส่งเสริมอีกเพียบ

ธุรกิจนึงที่กระโดดขึ้นอันดับมาอย่างรวดเร็ว ก็คือ คลาวด์เซอร์วิส และไซเบอร์ซิเคียวริตี้ เพราะการเติบโตในโลกดิจิทัล ข้อมูลต่าง ๆ ที่มากขึ้นเรื่อย ๆ การเก็บข้อมูลบนคลาวด์เป็นทางเลือกที่คนในปัจจุบันนิยมใช้ ส่วนของบริษัทด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ก็มีจํานวนจํากัดขณะที่ความต้องการมีมากขึ้น ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจนี้ก็คือบุคลากรที่เชี่ยวชาญมีไม่เพียงพอ รวมไปถึงการโจรกรรมข้อมูล

อันดับ 2) ธุรกิจการแพทย์และความงาม ธุรกิจโฆษณาและสื่อออนไลน์ ธุรกิจโทรคมนาคมสื่อสาร

ธุรกิจการแพทย์และความงามยังมีอนาคตที่สดใส นั่นก็เพราะว่าเราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุกันแล้ว และเด็ก ๆน้อง ๆ เจนใหม่ก็ใส่ใจเรื่องความงามกันมากขึ้น

ธุรกิจโฆษณาและสื่อออนไลน์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลย เพราะพฤติกรรมของคนสมัยนี้เข้าถึงสื่อออนไลน์มากขึ้น การรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ก็ผ่านสื่อออนไลน์กันหมดแล้ว ทําให้การโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์นั้นมีจํานวนมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ตอนนี้ก็มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อจะตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภค

ธุรกิจโทรคมนาคม – สื่อสาร เช่นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ธุรกิจนี้เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ยิ่งธุรกิจออนไลน์เติบโต ธุรกิจพื้นฐานแบบนี้ก็ยิ่งเติบโตไปด้วยกัน

อันดับ 1) ธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ YouTuber การรีวิวสินค้าและอินฟลูเอนเซอร์

ธุรกิจการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซขึ้นแท่นอันดับที่ 1 เพราะพฤติการณ์ของคนในปัจจุบันที่ซื้อของทางออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ ที่มากับสื่อออนไลน์ค่ะ ซึ่งใครที่จะจับธุรกิจนี้ก็ควรต้องคำนึงถึงความน่าเชื่อถือของร้านค้าออนไลน์มาเป็นอันดับแรก ๆ ด้วย เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งของธุรกิจนี้เลย

ส่วนธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ YouTuber การรีวิวสินค้าและอินฟลูเอนเซอร์ ที่ธุรกิจนี้มาแรงได้ขนาดนี้ก็เพราะเป็นธุรกิจที่ตอบสนองกับพฤติกรรมของผู้บริโภค และตอนนี้ผู้บริโภคก็เข้าถึงคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ ก็หันมาโฆษณาผ่านออนไลน์กันมากขึ้น จึงทำให้ธุรกิจนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจัยเสี่ยงก็เช่น ความสนใจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ตามได้ด้วย และคู่แข่งก็มากขึ้นเรื่อยๆด้วยเช่นกัน

10 อันดับธุรกิจดาวร่วงในปี 2567

อันดับ 1) โทรศัพท์พื้นฐาน , ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ CD-VDO

อันดับ 2) ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มี Platfrom online , ธุรกิจผลิต CD-DVD ที่จัดเก็บข้อมูลฮาร์ดดิสไดร์ฟหรือเมมโมรี่ การ์ด, บริการส่งหนังสือพิมพ์

อันดับ 3) ธุรกิจคนกลาง , ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก

อันดับ 4) ธุรกิจผลิตสิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม

อันดับ 5) ธุรกิจผลิตสารเคมี

อันดับ 6) ธุรกิจร้านถ่ายภาพ

อันดับ 7) ธุรกิจร้านขายเครื่องเล่นเกมส์ แผ่นเกมส์, ตลับเกม , ธุรกิจการทอผ้าจากธรรมชาติ

อันดับ 8) ธุรกิจถ่ายเอกสาร

อันดับ 9) ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้

อันดับ 10) ธุรกิจร้านโชห่วย , ธุรกิจผลิตกระดาษ

นอกจากนั้น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้เผยผลการศึกษาสถานการณ์และแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของ SME โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดสำคัญ คือ อัตราการเติบโตของธุรกิจเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2567 มีธุรกิจของ SME ทั้งกลุ่มที่เป็นดาวรุ่ง และ กลุ่มธุรกิจที่ต้องเฝ้าระวัง โดยกลุ่มธุรกิจดาวรุ่ง ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 และ 2567 พบว่า มี 2 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มธุรกิจที่เป็นดาวรุ่งต่อเนื่องสองปีซ้อน ได้แก่

1. ธุรกิจขายของชำ หรือ ร้านโชห่วย ซึ่งเติบโตถึง 940%เนื่องจากร้านค้าเหล่านี้ สามารถซื้อสินค้าครั้งละน้อย ๆ และยังยืดหยุ่นในการชำระเงินได้ อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนในชุมชน

2. ธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนสัมผัสวัฒนธรรมชนบท เติบโตถึง 187% หลังสถานการณ์โควิด-19 เทรนด์การท่องเที่ยวของโลกเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากเป็นการเยียวยาชีวิตและจิตใจ รวมทั้งได้สัมผัสเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน ความเรียบง่าย อาหารจากธรรมชาติ บรรยากาศที่เงียบสงบ ความผ่อนคลาย สัมผัสธรรมชาติเพื่อเติมพลัง

3. ธุรกิจขายของในบ้านมือสอง และซ่อมเฟอร์นิเจอร์ เติบโตกว่า 263% เนื่องจากราคาซ่อมมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดซื้อใหม่ หลายสินค้าราคาสูงจากต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งความจำเป็นในการใช้งานตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ กำลังซื้อที่ลดลง ประกอบกับเทรนด์การรักษ์โลก ผู้คนหันกลับมามองสิ่งของรอบตัวที่เรามีในชีวิตประจำวัน

4. ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ เช่น การตัดต่อ และการจัดผังรายการ เติบโตที่ 199% เนื่องจากหลังโควิด-19 ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อปรับกลยุทธ์ขยายแพลตฟอร์มไปทางกลุ่มสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเข้าสู่อาชีพ Youtuber และการสร้างกระแสในโลก Social ที่ง่ายขึ้น เกิดช่อง Youtube ของคนไทยเป็นจำนวนมาก

5. ธุรกิจผับ บาร์ และร้านที่ขายแอลกอฮอล์เป็นหลัก เติบโต 125% เนื่องจากหลังโควิด-19 มีการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับมาใช้ชีวิตยามราตรีได้ตามปกติ สอดคล้องกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัว อีกทั้งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่สร้างอัตรากำไรสูง ผู้ประกอบการสามารถคืนทุนได้อย่างรวดเร็วจึงเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตได้

กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงในปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นมาจำนวน 5 อันดับได้แก่

1. ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 1,925% ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่จากรูปแบบพฤติกรรมกลุ่มคนเมืองที่เปลี่ยนไปต้องการใช้เวลาในการทำกิจกรรมในชีวิตหรือพักผ่อน พื้นที่ในที่พักมีจำกัด โดยบริการนี้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญสามารถซักและอบเสร็จได้ในเวลาเพียง 20-40 นาที ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องซัก-อบที่มีราคาสูง คาดจะขยายตัวในเขตชุมชนจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ แต่เริ่มมีการแข็งขันเข้มข้นในธุรกิจนี้

2. การผลิตน้ำอัดแก๊สและโซดา มีอัตราการเติบโต 1,109% หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายผลิตภัณฑ์น้ำดื่มได้รับความนิยม มีรสชาติและรูปแบบแปลกใหม่มากขึ้นทั้งในรูปน้ำผลไม้ต่าง ๆ จากแต่ละท้องถิ่นที่นำมาอัดแก๊สในรูปแบบที่ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมดื่ม ผู้บริโภคเองก็มีทางเลือกมากขึ้น

3. ร้านตัดเย็บและซ่อมเครื่องแต่งกาย เช่นการแก้ทรงเสื้อ การตัดขากางเกง เติบโต 667% จากที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างชะลอตัว หลังโควิดผู้บริโภคยังระมัดระวังการใช้จ่ายนำเสื้อผ้าเก่ามาแก้เพื่อใช้งานหรือการหาซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ที่มีราคาถูกแต่อาจต้องปรับแก้ทรงเนื่องจากไม่ได้ลองก่อนซื้อ

4. กิจกรรมสันทนาการ เช่น ร้านขายเครื่องดนตรี ร้านเกม มีอัตราการเติบโต 349% เนื่องจากสามารถรวมตัวกันทำกิจกรรมบันเทิง งานแสดงดนตรี หรือร้านเกม เปิดได้ตามปกติทำให้กิจกรรมนี้กลับมาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว 4. บริการเกี่ยวกับงานศพครบวงจร เติบโต 285% ให้บริการขนย้าย ตกแต่งสถานที่ พิธีกรรม เป็นธุรกิจที่ตอบสนองคนเมือง ครอบครัวขนาดเล็ก ที่ช่วยลดความยุ่งยากและเวลาในการดำเนินการซึ่งมีให้เลือกตามงบประมาณของลูกค้า อีกทั้งประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ต่อเนื่อง และ 

5. ธุรกิจร้านเสริมสวย เติบโต 193% ผลจากการเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ กิจกรรมบันเทิงและความงามยังคงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจ รวมถึงราคาการให้บริการไม่สูงนักเนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการให้เลือกใช้บริการจำนวนมากแต่บางธุรกิจที่ได้รับความนิยมผ่านสื่อ Social อาจต้องจองคิวเพื่อเข้าใช้บริการ

ส่วนธุรกิจในกลุ่มเฝ้าระวัง

มีทั้งธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง 2 ปีต่อเนื่อง 2566 และ 2567 คือ ธุรกิจหอพักนักศึกษาเนื่องจากสถานศึกษาในระดับต่าง ๆ มีการเรียนการสอนแบบออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งมีทางเลือกของที่พักในรูปแบบอื่น ๆ โดยนักศึกษาส่วนใหญ่เลือกพักห้องเช่าแบบอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันมีธุรกิจที่เริ่มต้องเฝ้าระวังในปี 2567 เนื่องจากเคยเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงจากปี 2566 แต่ในปี 2567 กลับมีแนวโน้มชะลอตัวลง มีจำนวน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

1. ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสองเช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หดตัวมากถึง 82% อันเนื่องมาจาก สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีในปัจจุบันมือหนึ่งราคาถูกลงมาก มีหลายระดับให้เลือก ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลากหลายมากขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคมีการเปรียบเทียบราคาได้ง่าย เพื่อความคุ้มค่าในการจ่ายเงิน สินค้ามือสองกลุ่มนี้จึงได้รับความนิยมน้อยลง

2. ธุรกิจขายงานฝีมือและของที่ระลึก เช่น เครื่องเงิน เครื่องจักรสาน หดตัวถึง 75% เนื่องมาจากการขายสินค้าในออนไลน์เป็นที่นิยม และมีสินค้าเกือบทุกประเภทขายบนออนไลน์ จึงทำให้มีแรงกระตุ้นน้อยลงที่จะทำให้นักท่องเที่ยวต้องซื้อสินค้าจากการไปท่องเที่ยวที่นั้น ๆ และ

3. ธุรกิจเกสเฮ้าส์ หดตัวกว่า 65% เนื่องจากมีการเติบโตอย่างมากในปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายในช่วงแรก ห้องพักแบบเกสเฮ้าส์เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่สูงนักเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว กลุ่มวัยรุ่นและเป็นการพักในระยะยาว แต่หลังโควิด-19 ผ่านไป พฤติกรรมการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวนิยมพักระยะสั้น-กลาง หันไปนิยมห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า หรือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวมากขึ้น